ฝ่ายแรงงานฯ กรุงโซล เข้าร่วมประชุมกับ Korea Trade-Investment Promotion Agency ประเด็นการนำเข้าแรงงานช่างเชื่อมอู่ต่อเรือชาวไทย (วีซ่า E-7)

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม 2559 เวลา 15.30 น. นางกาญจนา วงศ์สุวรรณ์ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ได้ประชุมกับผู้แทน KOTRA (Korea Trade-Investment Promotion Agency) และผู้แทนนายจ้างที่จะจ้างช่างเชื่อมอู่ต่อเรือ ประเภทวีซ่า E-7 KOSHIPA (Korea Offshore & Shipbuilding Association) เกี่ยวกับดำเนินงานนำเข้าแรงงานช่างเชื่อมอู่ต่อเรือชาวไทยตามจำนวนโควตาวีซ่า E-7 เพิ่ม

KOTRA เป็นรัฐวิสาหากิจที่อยู่ภายใต้กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงาน (Ministry of Trade, Industry and Energy) ได้รับมอบอำนาจจากกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงาน ให้ดำเนินงานนำเข้าแรงงานช่างเชื่อมอู่ต่อเรือ ประเภทวีซ่า E-7 เข้ามาทำงานในสาธารณรัฐเกาหลี ตามจำนวนโควตาวีซ่า E-7 ช่างเชื่อมอู่ต่อเรือของกระทรวงยุติธรรม (Ministry of Justice) จำนวน 174 อัตรา โดยแบ่งให้กับ 2 ประเทศ ประเทศไทย จำนวน 130 อัตรา ประเทศอินโดนีเซีย จำนวน 44 อัตรา เมื่อปี 2558 ได้นำดำเนินงานนำเข้าแรงงานช่างเชื่อมอู่ต่อเรือชาวไทย ประเภทวีซ่า E-7 เข้ามาทำงานในสาธารณรัฐเกาหลี จำนวน 126 คน เสร็จเรียบร้อยแล้ว จำนวนโควตาวีซ่า E-7 ยังเหลือ 48 อัตรา เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการนำเข้าแรงงานช่างเชื่อมอู่ต่อเรือชาวอินโดนีเซียได้ KOTRA (Korea Trade-Investment Promotion Agency) จึงจะดำเนินการนำเข้าแรงงานช่างเชื่อมอู่ต่อเรือชาวไทยตามจำนวนโควตาวีซ่า E-7 ที่เหลือ จำนวน 48 อัตรา (ระดับ 4G)

ปัจจุบัน KOTRA ประจำกรุงเทพฯ ได้คัดเลือกบริษัทจัดหางาน 2 แห่ง ได้แก่ C&M Brother Recruitment Co. Ltd., และ True Position Manpower Co. Ltd. เพื่อรับสมัครงานของช่างเชื่อมอู่ต่อเรือ และ KOTRA ได้กำหนดเดินทางไปประเทศไทยเพื่อจัดทดสอบฝีมือแรงงาน ระหว่างวันที่ 4-8 เมษายน 2559