เมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๒ นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต้อนรับ นายจอง แฮ-มุน (Mr.Chong Hae-MOON) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย เข้าพบหารือเรื่องการจัดส่งแรงงานไทยไปสาธารณรัฐเกาหลี ตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (Employment Permit System for Foreigners Workers : EPS) ซึ่งรัฐบาลเกาหลีอนุญาตให้รับแรงงานต่างชาติเป็น ๒ ระบบ คือ ระบบการฝึกงานอุตสาหกรรม (Industrial Trainee System) ใน ๓ สาขา คือ ภาคอุตสาหกรรม ตามการดำเนินการของสมาพันธ์ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางแห่งเกาหลี (Korea Federation of Small and Medium Business ; KFSB) ภาคก่อสร้าง ตามการดำเนินการของสมาคมก่อสร้างเกาหลี (The Construction Association of Korea) และภาคเกษตร ตามการดำเนินการของสมาพันธ์ความร่วมมือด้านการเกษตรแห่งชาติ (National Agricultural Cooperative Federation ; NACF)
อีกระบบหนึ่ง คือ ระบบใบอนุญาตทำงาน (Work Permit System) ทางเกาหลีคัดเลือกให้ ๖ ประเทศรวมทั้งไทยเป็นผู้มีสิทธิจัดส่งคนหางานตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (Employment Permit System for Foreigners Workers : EPS) ซึ่งเมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๕๒ นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ลงนามร่วมกับนายลี ยอง ฮี (Mr. Lee Young Hee) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานสาธารณรัฐเกาหลี ณ เมืองอันซาน ซึ่งเป็นการลงนามในบันทึกความเข้าใจฉบับที่ ๓
สำหรับการเข้าพบครั้งนี้มีการพูดจาถึงความร่วมมือระหว่างไทยกับเกาหลีในการ จัดส่งแรงงานไทยไปทำงาน เนื่องจากนายจ้างเกาหลีมีความประทับใจในศักยภาพและความมีน้ำใจของแรงงานไทย แต่การลดโควตาลงของฝ่ายเกาหลีจากเดิมปีละกว่า ๒๐,๐๐๐ ราย เหลือเพียง ๓,๙๐๐ รายในปีนี้ ซึ่งเอกอัครราชทูตเกาหลีชี้แจงว่า เนื่องจากเศรษฐกิจโลกส่งผลต่อเศรษฐกิจเกาหลีที่มีความตึงตัวมากขึ้น จึงมีความจำเป็นต้องลดโควตาแรงงานลงในทุกสัญชาติ ไม่ใช่เฉพาะแต่แรงงานไทยเท่านั้น โดยมีสถิติการลดลงต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีก่อนแล้ว
รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ยอมรับเรื่องที่แรงงานไทยมีปัญหาอยู่บ้างในเรื่องเมาสุรา หนีนายจ้าง และการขับรถซึ่งทางการเกาหลีห้ามแรงงานต่างชาติขับรถ แต่ก็ได้พบปะชี้แจงให้แรงงานไทยทราบแล้วในครั้งที่ตนไปเยี่ยมเยียนและพบปะ แรงงานไทยที่เกาหลีช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีการเปิดฝึกอบรมแรงงานไทยรุ่นใหม่ที่กำลังจะเดินทางไปทำงานที่ เกาหลีให้ทราบถึงแนวทางที่ควรปฏิบัติตนในขณะอยู่ที่เกาหลีให้ถูกต้อง และฝึกอบรมด้านทักษะฝีมือให้ตรงตามความต้องการของนายจ้างเกาหลีด้วย โดยได้ พูดคุยกันถึงแนวทางการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานกับนายจ้างชาวเกาหลีที่มี โครงการก่อสร้างยังประเทศต่างๆ อาทิ ที่ ไนจีเรีย และลิเบีย ซึ่งนายจ้างเกาหลีได้ประสานผ่านมาเพื่อขอแรงงานไทยกว่า ๗๐๐ คนมาแล้ว ซึ่งจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจทั้งของไทยและเกาหลีให้ดีขึ้นต่อไป